นักวิทยาศาสตร์อังกฤษปั่นรณรงค์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ – Pole to Paris
สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ กรุงเทพฯ ต้อนรับ ดร.แดเนียล ไพรส์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ และผู้ริเริ่ม ‘Pole to Paris’ แคมเปญรณรงค์เกี่ยวกับ ‘การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ’
![PoletoParis](https://assets.publishing.service.gov.uk/media/5a615a3be5274a75f1ddc562/s300_pletoparis1.jpg)
สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ กรุงเทพฯ ต้อนรับ ดร.แดเนียล ไพรส์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ และผู้ริเริ่ม ‘Pole to Paris’ แคมเปญรณรงค์เกี่ยวกับ ‘การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ’ (Climate Change) ซึ่งได้ขี่จักรยานจากทวีปแอนตาร์กติกมาถึงกรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ จากฝ่ายต่างๆ ร่วมใจมาแสดงความยินดีเพื่อส่วนหนึ่งในการรณรงค์ครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์และส่ง ดร. แดเนียล ไพรส์ ขี่จักรยานต่อไปบนถนนวิทยุจนถึงสวนลุมพินี โดยดร.แดเนียล ไพรส์ จะออกจากประเทศไทยในสัปดาห์หน้า มุ่งสู่ประเทศบังคลาเทศซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางต่อไป
ดร. แดเนียล ไพรส์ ออกเดินทางขี่จักรยานจากทวีปแอนตาร์กติก สู่จุดหมายปลายทางที่กรุงปารีส ด้วยระยะทางทั้งหมดกว่า 17,000 กิโลเมตร ภายใต้แคมเปญ ‘Pole to Paris’ เพื่อรณรงค์และสร้างความตระหนักถึงปัญหา ‘การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ’ และความสำคัญของการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสมัยที่ 21 ของ องค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of Parties 21 หรือเรียกสั้นๆ ว่าCOP21) ซึ่งเป็นการเจรจาข้อตกลงเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างประเทศสมาชิกจากทั่วโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนธันวามคมปี 2558 นี้ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ดร.ไพรส์ กล่าว:
ในทุกๆ ยุคสมัยมนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่แตกต่างกันไป และขณะนี้เรากำลังเผชิญกับความท้าทาย ครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ‘การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ’ ไม่ใช่เพียงปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วไป แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกันและสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ได้ การประชุมนานาชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ จะมีผู้นำจากประเทศต่างๆ มาร่วมหารือตกลงเรื่องการวางมาตรการและความช่วยเหลือเพื่อลดการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะมีทางออกที่พาพวกเราก้าวข้ามวิกฤติโลกครั้งนี้ไปได้
นอกจากการขี่จักรยานรณรงค์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในแคมเปญ ‘Pole to Paris’ แล้ว ดร.ไพรส์จะเข้าร่วมการประชุมและสัมมนาเกี่ยวกับ ‘การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ’ ที่จัดขึ้นในแต่ประเทศที่เดินทางผ่าน ซึ่งเผชิญกับปัญหาด้านภูมิอากาศที่แตกต่างกันไป สำหรับประเทศไทย ดร.ไพรส์ได้เข้าร่วม Regional Forum on Climate Change จัดโดยสหภาพยุโรป (European Union) เพื่อนำเสนอ พูดคุยและอภิปรายเกี่ยวกับกลยุทธ์และมาตรการต่างๆ ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมวิธีแก้ปัญหาพลังงานทดแทน ร่วมกับนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology – AIT)
ดร.ไพรส์ กล่าวย้ำ:
เราสามารถเอาชนะความท้าทายครั้งใหญ่นี้ไปได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ทั้งตัวบุคคล ภาครัฐและเอกชน ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความครั้งนี้ได้เพียงช่วยเป็นกระบอกเสียงและกระตุ้นให้ผู้นำของเราวางแผนงานการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างจริงจังและทำได้สำเร็จ
การเดินทางของดร.ไพรส์ในแต่ละช่วง จะถ่ายทอดออกมาในรูปแบบซีรีส์วิดีโอ ที่จะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ สาเหตุที่ทำให้ภูมิอากาศที่ขั้วโลกเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ผู้ที่สนใจ สามารถชมผ่านทางเว็บไซต์และ Social Media ได้ที่ www.poletoparis.com, Twitter @poletoparis และ www.facebook.com/poletoparis
‘Pole to Paris’ จึงเป็นการรณรงค์ครั้งสำคัญที่จะช่วยกันกระตุ้นให้สาธารณชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังเคลื่อนไหวในครั้งนี้ และยังจะเป็นก้าวสำคัญของการช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติในการประชุม COP21 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดร. ไพรส์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ อายุ 27 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในระหว่างที่เขาอาสาดำเนินโครงการภาคสนาม 3 โครงการในทวีปแอนตาร์กติก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ต่อทวีปขั้วโลก ที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าแอนตาร์ติกจะดูห่างไกล ทว่ามันอยู่ใกล้มากกว่าที่เราคิด หลังจากได้ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและวิทยาศาสตร์กายภาพโลกเป็นเวลา 10 ปี ดร. ไพรส์และเพื่อนร่วมงาน จึงริเริ่มทำวิดีโอเพื่อสื่อให้เห็นถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์ที่อาจเกิดขึ้น และร่วมรณรงค์สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการประชุม COP21 ที่กรุงปารีส ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการประชุมที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก