อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ถึงแก่อนิจกรรม
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ วิลเลียม เฮก กล่าวแสดงความเสียใจ ต่อข่าวการถึงแก่อนิจกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง มาร์กาเร็ต แธตเชอร์
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน กล่าวว่า:
ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อข่าวการถึงแก่อนิจกรรมของเลดี้ แธตเชอร์ เราได้สูญเสียทั้งผู้นำ นายกรัฐมนตรี และชาวอังกฤษที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ วิลเลียม เฮก กล่าวว่า:
เลดี้ แธตเชอร์ ได้เปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปตลอดกาล และท่านมีบุญคุณต่อพวกเราทุกคนอย่างยากจะหาใครเปรียบ ขอให้ท่านมาร์กาเร็ตไปสู่สุขคติ
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน กล่าวต่อสื่อมวลชนในกรุงมาดริด ประเทศสเปนว่า:
วันนี้นับเป็นวันแห่งความเศร้าโศกอย่างยิ่งของประเทศ เราได้สูญเสียนายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ และ ชาวอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเรา มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ประสบความสำเร็จเหนืออุปสรรคทั้งปวง อันที่จริง ท่านไม่เพียงแต่เป็นผู้นำประเทศ แต่ท่านยังปกป้องประเทศของเราด้วย ผมเชื่อว่าท่านจะเป็นที่จำจดในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษในยามที่ประเทศสงบสุข
ในวันนี้เราควรนึกถึงครอบครัวของท่าน เราได้สูญเสียบุคคลสาธารณะที่ยิ่งใหญ่ แต่ครอบครัวของท่านนั้นได้สูญเสียคุณแม่และคุณย่าอันเป็นที่รัก และวันนี้เราควรแสดงความเสียใจกับครอบครัวของท่านด้วยเช่นกัน สี่งที่ท่านได้ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังคือข้อเท็จจริงที่ท่านได้รับใช้ประเทศอย่างสุดความสามารถ ท่านได้รักษาประเทศของเราไว้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการเป็นผู้นำประเทศ และประชาชนจะได้เรียนรู้ถึงความสำเร็จและสิ่งที่ท่านได้ทำไปอีกหลายทศวรรษ บางทีอาจจะหลายศตวรรษข้างหน้า และนั่นคือสิ่งที่ท่านได้ทิ้งไว้ให้แก่พวกเรา อย่างไรก็ดีในวันนี้เราควรแสดงความเสียใจกับครอบครัวของท่าน
วิลเลียม เฮก ยังได้กล่าวกับสื่อมวลชนวันนี้ว่า:
วันนี้เป็นวันที่เศร้าโศกอย่างยิ่งสำหรับพวกเราทุกคน ทั้งคนที่รู้จักและติดตามเรื่องราวของท่าน ท่านเป็นหนึ่งในผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศ หนึ่งในนักการเมืองที่ยอดเยี่ยม และหนึ่งในหัวใจอันยิ่งใหญ่ของประเทศนี้ด้วยเช่นกัน
ท่านแธตเชอร์เปลี่ยนโฉมหน้าของการเมืองอังกฤษ และท่านยังเปลี่ยนอีกหลายสิ่ง ท่านให้ความหวังและเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงให้กับผู้ที่อยู่เบื้องหลังม่านเหล็กในยุคทศวรรษที่ 80 ความเชื่อมั่นของท่านในเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลก และเป็นแรงใจต่อผู้คนที่อยู่โดยปราศจากเสรีภาพทางการเมืองมาเป็นเวลานาน
ข้อมูลเพิ่มเติม
Updates to this page
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 10 April 2013 + show all updates
-
Added translation
-
Added translation
-
First published.